ข้อดีและประโยชน์ของผังงาน
1. ทำให้เข้าใจและแยกแยะปัญหาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
2. ผู้เขียนโปรแกรมมองเห็นลำดับการทำงาน รู้ว่าสิ่งใดควรทำก่อน สิ่งใดควรทำหลัง
3. สามารถหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้ง่าย
4. ทำให้ผู้อื่นเข้าใจการทำงานได้ง่ายกว่าการดูจาก source code
5. ไม่ขึ้นกับภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดภาษาหนึ่ง ผู้อื่นสามารถเรียนรู้และเข้าใจได้ง่าย
จุดอ่อนและข้อด้อยของ Flowchart
1. การหาภาพที่เหมาะสมอาจหาได้ยาก
2. ความพร้อมของอุปกรณ์และความสามารถในการถ่ายภาพ
3. ไฟล์ภาพมีขนาดใหญ่ในการจัดเก็บในคอมพิวเตอร์
วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553
วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553
แบบฝึกหัดท้ายบทที่1
แบบประเมินผลการเรียนรู้ที่ 1
1. การหาแนวทางการแก้ไขปัญหา มีด้วยกันทั้งหมดกี่ขั้นตอน
ค. 5 ขั้นตอน
2. ขั้นตอนใดที่ต้องทำเป็นขั้นตอนแรกในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา
ก. การทำความเข้าใจกับปัญหา
3. ขั้นตอนใดที่ต้องทำเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการหาแนวทางในการแก้ปัญหา
ง. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
4. ข้อใดไม่ใช่วิธีการในการพัฒนาโปรแกรมเพื่อนำมาใช้ช่วยในการแก้ปัญหา
ข. อยู่หน้าเครื่องแล้วทดลองเขียนโปรแกรม
5. ขั้นตอนในการหาว่า “การแก้ไขปัญหาที่ต้องการจะแก้ไขนั้น ต้องการข้อมูลใดบ้าง เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา และหลังจากเข้าใจปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะส่งค่าใดกลับไป” คือข้อใด
ง. การทำความเข้าใจกับปัญหา
6. เมื่อพิจารณาในส่วนของข้อมูลที่จะส่งให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา และข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่งกลับมาหลังจากการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว จะต้องทำขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนต่อไป
ข. การทดลองแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
7. ข้อใดกล่าวถึงคอมพิวเตอร์ไม่ถูกต้อง
ง. ถูกทุกข้อ
8. การหาวิธีการเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องและเหมาะสม จะกระทำในขั้นตอนใด
ค. การพัฒนาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
9. ขั้นตอนในการพิจารณาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา จะนำขั้นตอนในการแก้ปัญหาขั้นตอนใดในการมาใช้พัฒนา
ข. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
10. ในส่วนของขั้นตอนในการพัฒนาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา ประกอบด้วยขั้นตอนย่อยกี่ขั้นตอน
ข. 3 ขั้นตอน
11. ในส่วนของขั้นตอนในการพัฒนาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา จะต้องทำสิ่งใดเป็นลำดับแรก
ก. การอธิบายการทำงานอย่างหยาบ
12. ข้อใดกล่าวถึงคำสั่งเทียมได้อย่างถูกต้อง
ค. เป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษคอมพิวเตอร์
13. คำสั่งเทียมถูกพัฒนาจากขั้นตอนใด
ง. การอธิบายลำดับขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียด
14. ขั้นตอนการหาแนวทางในการแก้ปัญหานั้น เมื่อทำการทดลองแก้ปัญหาด้วยตนเองแล้วจะต้องทำขั้นตอนใดต่อไปนี้
ค. การทำความเข้าใจกับปัญหา
15. ถ้าต้องการหาจำนวนเงินทอนที่ต้องถอนให้กับลูกค้า จากสูตร
เงินทอน = เงินที่ลูกค้าจ่าย- ราคาสินค้า
จะเขียนเป็นการอธิบายลำดับขั้นตอนการทำงานได้เป็นข้อใด
ค. เงินทอน เงินที่ลูกค้าจ่าย – ราคาสินค้า
16. ถ้าต้องการกำหนดค่าให้ตัวแปร N = 10 สามารถเขียนเป็นคำสั่งเทียมได้ในข้อใด
ค. N 10
17. การหาแนวทางการแก้ปัญหาขั้นตอนใดที่ต้องทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ก. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
18. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหานั้น จะใช้ในการทดสอบแนวทางแก้ปัญหาในขั้นตอนใด
ข. การพิจารณาลักษณะของข้อมูลเข้าและข้อมูลออก
19. ในการทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา ควรจะทดสอบด้วยข้อมูลจำนวนกี่ชุดข้อมูล
ข. 2 ชุดข้อมูล
20. ข้อใดใช้ในการพัฒนาต่อให้เป็นภาษาคอมพิวเตอร์
ก. คำสั่งเทียม
ตอนที่ 2 จงแสดงวิธีทำ
1. สมศักดิ์มีเงินเก็บสะสมอยู่จำนวนหนึ่ง ถ้านำไปฝากไว้กับธนาคาร โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี สมศักดิ์จพต้องฝากเงินกับธนาคารเป็นจำนวนกี่ปี ถึงจะมีเงินเก็บเป็น 2 เท่า ของจำนวนเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ข้อมูลเข้าของปัญหานี้ คือ จำนวนเงินที่เก็บสะสมข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนเต็มและเงินที่เก็บเป็น 2 เท่าของข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
ข้อมูลออกของปัญหานี้ คือ ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยเป็น ข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนเต็มและเวลาที่ต้องฝากธนาคารเป็นข้อมูลตัวเลขจำนวนเต็ม
2. สมศักดิ์, สมศรี และสมชายทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้ง 3 คน ได้รับเงินเดือนไม่เท่ากัน ในกรณีที่ต้องการหาเงินเดือนเฉลี่ยของทั้ง 3 คน
ข้อมูลเข้าของปัญหานี้ คือ ต้องการเฉลี่ยเงินเดือนของ 3 คน ต้องรู้จำนวนเงินของเงินเดือนแต่ละคนเท่ากับเท่าไร
ข้อมูลออกของปัญหานี้ คือ ต้องนำเงินเดือนของแต่ละคนมารวมกันและนำมาเฉลี่ยให้เท่ากันและนำจำนวนเงินที่ได้อาจจะเป็นจำนวนเต็มหรือทศนิยม
3. สายสมรเป็นพนักงานของร้านค้าแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ในการนำเงินที่ได้จากการขายสินค้าในแต่ละสัปดาห์ไปฝากธนาคาร จงหาแนวทางการแก้ปัญหาทั้ง 5 ขั้นตอน ในการหาผลรวมของจำนวนเงินที่สายสมรนำไปฝากธนาคารภายในหนึ่งเดือน ว่ามีจำนวนเงินเท่าใดเมือคิดที่ 1 เดือน มีทั้ง 4 สัปดาห์ และจำนวนเงินเฉลี่ยที่นำไปฝากแต่ละสัปดาห์
Problem Statement
คำนวณจำนวนเงินที่สายสมรนำฝากธนาคารภายใน 1 เดือน และจำนวนเงินเฉลี่ยที่นำไปฝากแต่ละสัปดาห์
Input Output Description
Input คือ คิด จำนวนเงินที่นำไปฝากเป็นตัวเลขจำนวนเต็มผลรวมของจำนวนเงินที่นำไปฝากเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
Output คือ ผลรวมของเงินที่ต้องนำไปฝากที่ธนาคารภายใน 1 เดือน เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
Hand Example
สัปดาห์ที่ 1 + สัปดาห์ที่ 2 + สัปดาห์ที่ 3 + สัปดาห์ที่ 4 = 1 เดือน
1 เดือน /4 = จำนวนเงินเฉลี่ยที่นำไปฝากต่อสัปดาห์
Algorithm Development
Decomposition
เริ่มต้น
รับเงินที่จะนำไปฝาก
คำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากแต่ละอาทิตย์
คำนวนเงินที่จะนำไปฝากรวม 1 เดือน มาเฉลี่ยเป็นสัปดาห์
จบการทำงาน
Refinement
เริ่มต้น
รับเงินที่นำไปฝาก
คำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากแต่ละสัปดาห์
1 สัปดาห์ = จำนวนเงิน
4. คำนวนจำนวนที่ต้องนำไปฝากรวม 1 เดือน
4 สัปดาห์ = จำนวนเงินต่อเดือน
จำนวนเงินต่อเดือน / 4 = เงินเฉลี่ยแต่ละสัปดาห์
5. จบการทำงาน
Testing
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 1
เมื่อให้จำนวนเงินนำฝากสัปดาห์ที่ 1 คือ 57,300 บาท สัปดาห์ที่ 2 คือ 46,820 บาท สัปดาห์ที่ 3 คือ 68,910 บาท สัปดาห์ที่ 4 คือ 53,200 บาท
1. Begin
บอกการเริ่มต้นของขั้นตอนการทำงาน
2. Read Price
รับจำนวนเงินที่นำไปฝากในที่ที่กำหนดให้
สัปดาห์ที่ 1 = 57,300
สัปดาห์ที่ 2 = 46,820
สัปดาห์ที่ 3 = 68,910
สัปดาห์ที่ 4 = 53,200
Interrest
คำนวนรวมจำนวนเงินที่ จะต้องนำไปฝากใน 1 เดือน มี 4 สัปดาห์
57,300+46,820+68,910+53,200=226,230
4. แสดงจำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากรวม 1 เดือนมาเฉลี่ย
226,230/4=56,557.5 บาท
5. Write
แสดงจำนวนเงินที่เฉลี่ยจาก 1 เดือน และ จำนวนเงินที่นำไปฝาก แต่ละ สัปดาห์
1 เดือน =226,230
1 สัปดาห์ =56,557.5
จบการทำงาน
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 2
เมื่อให้จำนวนที่นำฝากสัปดาห์ที่ 1 คือ 32,300 บาท สัปดาห์ที่ 2 คือ 17,300 บาท สัปดาห์ที่ 3 คือ 28,900 บาท สัปดาห์ที่ 4 คือ 42,000 บาท
1. Begin
บอกการเริ่มต้นของขั้นตอนการทำงาน
2. Read Price
รับจำนวนเงินที่นำไปฝาก ในที่ที่กำหนดให้
สัปดาห์ 1 = 32,300
สัปดาห์ 2 = 17,300
สัปดาห์ 3 = 28,900
สัปดาห์ 4 = 42,000
3. Interrest
คำนวนจำนวนเงินที่ จะต้องนำไปฝากใน 1 เดือน มี 4 สัปดาห์
32,300+17,300+28,900+42,000=120,500
4. แสดงจำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากรวม 1 เดือน มาเฉลี่ย
120,500/4 = 30,125 บาท
5. Write
แสดงจำนวนเงินที่เฉลี่ยจาก 1 เดือน และ จำนวนเงินที่นำไปฝาก แต่ละสัปดาห์
1 เดือน = 120,500 บาท
1 สัปดาห์ = 30,125 บาท
6. จบการำงาน
4. จงหาแนวทางการแก้ปัญหา 5 ขั้นตอน ของการคำนวนชั่วโมงในการทำงานของพนักงานฝึกหัดในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่เปิดทำการเวลา 6.00-24.00 น. เพื่อใช้ในการคำนวนอัตราค่าจ้างในการทำงาน โดยจ่ายในชั่วโมงละ 30 บาท โดยนับเวลาที่มาทำงานและเวลาที่เลิกทำงานในแต่ละวันเข้ามา จากนั้นคำนวนหาชั่วโมงทำงาน และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้พนักงานในแต่วันนั้น
Problem Statement
Input Output Description
Input คือ
Output คือ
Hand Example
Algorithm Development
Decomposition
Refinement
Pseudo Code
Testing
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 1
เมื่อให้เวลาเรื่มต้นทำงาน คือ 09.35 น. เวลาเลิกทำงาน คือ 13.30 น.
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 2
เมื่อให้เเวลาเริ่มต้นทำงาน คือ 13.00 น. เวลาเลิกงาน คือ 20.15 น.
my
1. การหาแนวทางการแก้ไขปัญหา มีด้วยกันทั้งหมดกี่ขั้นตอน
ค. 5 ขั้นตอน
2. ขั้นตอนใดที่ต้องทำเป็นขั้นตอนแรกในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา
ก. การทำความเข้าใจกับปัญหา
3. ขั้นตอนใดที่ต้องทำเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการหาแนวทางในการแก้ปัญหา
ง. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
4. ข้อใดไม่ใช่วิธีการในการพัฒนาโปรแกรมเพื่อนำมาใช้ช่วยในการแก้ปัญหา
ข. อยู่หน้าเครื่องแล้วทดลองเขียนโปรแกรม
5. ขั้นตอนในการหาว่า “การแก้ไขปัญหาที่ต้องการจะแก้ไขนั้น ต้องการข้อมูลใดบ้าง เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา และหลังจากเข้าใจปัญหาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะส่งค่าใดกลับไป” คือข้อใด
ง. การทำความเข้าใจกับปัญหา
6. เมื่อพิจารณาในส่วนของข้อมูลที่จะส่งให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในการแก้ปัญหา และข้อมูลที่เครื่องคอมพิวเตอร์ส่งกลับมาหลังจากการแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว จะต้องทำขั้นตอนใดเป็นขั้นตอนต่อไป
ข. การทดลองแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง
7. ข้อใดกล่าวถึงคอมพิวเตอร์ไม่ถูกต้อง
ง. ถูกทุกข้อ
8. การหาวิธีการเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องและเหมาะสม จะกระทำในขั้นตอนใด
ค. การพัฒนาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
9. ขั้นตอนในการพิจารณาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา จะนำขั้นตอนในการแก้ปัญหาขั้นตอนใดในการมาใช้พัฒนา
ข. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
10. ในส่วนของขั้นตอนในการพัฒนาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา ประกอบด้วยขั้นตอนย่อยกี่ขั้นตอน
ข. 3 ขั้นตอน
11. ในส่วนของขั้นตอนในการพัฒนาลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา จะต้องทำสิ่งใดเป็นลำดับแรก
ก. การอธิบายการทำงานอย่างหยาบ
12. ข้อใดกล่าวถึงคำสั่งเทียมได้อย่างถูกต้อง
ค. เป็นภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษคอมพิวเตอร์
13. คำสั่งเทียมถูกพัฒนาจากขั้นตอนใด
ง. การอธิบายลำดับขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียด
14. ขั้นตอนการหาแนวทางในการแก้ปัญหานั้น เมื่อทำการทดลองแก้ปัญหาด้วยตนเองแล้วจะต้องทำขั้นตอนใดต่อไปนี้
ค. การทำความเข้าใจกับปัญหา
15. ถ้าต้องการหาจำนวนเงินทอนที่ต้องถอนให้กับลูกค้า จากสูตร
เงินทอน = เงินที่ลูกค้าจ่าย- ราคาสินค้า
จะเขียนเป็นการอธิบายลำดับขั้นตอนการทำงานได้เป็นข้อใด
ค. เงินทอน เงินที่ลูกค้าจ่าย – ราคาสินค้า
16. ถ้าต้องการกำหนดค่าให้ตัวแปร N = 10 สามารถเขียนเป็นคำสั่งเทียมได้ในข้อใด
ค. N 10
17. การหาแนวทางการแก้ปัญหาขั้นตอนใดที่ต้องทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย
ก. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา
18. การทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหานั้น จะใช้ในการทดสอบแนวทางแก้ปัญหาในขั้นตอนใด
ข. การพิจารณาลักษณะของข้อมูลเข้าและข้อมูลออก
19. ในการทดสอบลำดับขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา ควรจะทดสอบด้วยข้อมูลจำนวนกี่ชุดข้อมูล
ข. 2 ชุดข้อมูล
20. ข้อใดใช้ในการพัฒนาต่อให้เป็นภาษาคอมพิวเตอร์
ก. คำสั่งเทียม
ตอนที่ 2 จงแสดงวิธีทำ
1. สมศักดิ์มีเงินเก็บสะสมอยู่จำนวนหนึ่ง ถ้านำไปฝากไว้กับธนาคาร โดยธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ย 4.5% ต่อปี สมศักดิ์จพต้องฝากเงินกับธนาคารเป็นจำนวนกี่ปี ถึงจะมีเงินเก็บเป็น 2 เท่า ของจำนวนเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน
ข้อมูลเข้าของปัญหานี้ คือ จำนวนเงินที่เก็บสะสมข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนเต็มและเงินที่เก็บเป็น 2 เท่าของข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
ข้อมูลออกของปัญหานี้ คือ ธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยเป็น ข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนเต็มและเวลาที่ต้องฝากธนาคารเป็นข้อมูลตัวเลขจำนวนเต็ม
2. สมศักดิ์, สมศรี และสมชายทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งทั้ง 3 คน ได้รับเงินเดือนไม่เท่ากัน ในกรณีที่ต้องการหาเงินเดือนเฉลี่ยของทั้ง 3 คน
ข้อมูลเข้าของปัญหานี้ คือ ต้องการเฉลี่ยเงินเดือนของ 3 คน ต้องรู้จำนวนเงินของเงินเดือนแต่ละคนเท่ากับเท่าไร
ข้อมูลออกของปัญหานี้ คือ ต้องนำเงินเดือนของแต่ละคนมารวมกันและนำมาเฉลี่ยให้เท่ากันและนำจำนวนเงินที่ได้อาจจะเป็นจำนวนเต็มหรือทศนิยม
3. สายสมรเป็นพนักงานของร้านค้าแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ในการนำเงินที่ได้จากการขายสินค้าในแต่ละสัปดาห์ไปฝากธนาคาร จงหาแนวทางการแก้ปัญหาทั้ง 5 ขั้นตอน ในการหาผลรวมของจำนวนเงินที่สายสมรนำไปฝากธนาคารภายในหนึ่งเดือน ว่ามีจำนวนเงินเท่าใดเมือคิดที่ 1 เดือน มีทั้ง 4 สัปดาห์ และจำนวนเงินเฉลี่ยที่นำไปฝากแต่ละสัปดาห์
Problem Statement
คำนวณจำนวนเงินที่สายสมรนำฝากธนาคารภายใน 1 เดือน และจำนวนเงินเฉลี่ยที่นำไปฝากแต่ละสัปดาห์
Input Output Description
Input คือ คิด จำนวนเงินที่นำไปฝากเป็นตัวเลขจำนวนเต็มผลรวมของจำนวนเงินที่นำไปฝากเป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
Output คือ ผลรวมของเงินที่ต้องนำไปฝากที่ธนาคารภายใน 1 เดือน เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม
Hand Example
สัปดาห์ที่ 1 + สัปดาห์ที่ 2 + สัปดาห์ที่ 3 + สัปดาห์ที่ 4 = 1 เดือน
1 เดือน /4 = จำนวนเงินเฉลี่ยที่นำไปฝากต่อสัปดาห์
Algorithm Development
Decomposition
เริ่มต้น
รับเงินที่จะนำไปฝาก
คำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากแต่ละอาทิตย์
คำนวนเงินที่จะนำไปฝากรวม 1 เดือน มาเฉลี่ยเป็นสัปดาห์
จบการทำงาน
Refinement
เริ่มต้น
รับเงินที่นำไปฝาก
คำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากแต่ละสัปดาห์
1 สัปดาห์ = จำนวนเงิน
4. คำนวนจำนวนที่ต้องนำไปฝากรวม 1 เดือน
4 สัปดาห์ = จำนวนเงินต่อเดือน
จำนวนเงินต่อเดือน / 4 = เงินเฉลี่ยแต่ละสัปดาห์
5. จบการทำงาน
Testing
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 1
เมื่อให้จำนวนเงินนำฝากสัปดาห์ที่ 1 คือ 57,300 บาท สัปดาห์ที่ 2 คือ 46,820 บาท สัปดาห์ที่ 3 คือ 68,910 บาท สัปดาห์ที่ 4 คือ 53,200 บาท
1. Begin
บอกการเริ่มต้นของขั้นตอนการทำงาน
2. Read Price
รับจำนวนเงินที่นำไปฝากในที่ที่กำหนดให้
สัปดาห์ที่ 1 = 57,300
สัปดาห์ที่ 2 = 46,820
สัปดาห์ที่ 3 = 68,910
สัปดาห์ที่ 4 = 53,200
Interrest
คำนวนรวมจำนวนเงินที่ จะต้องนำไปฝากใน 1 เดือน มี 4 สัปดาห์
57,300+46,820+68,910+53,200=226,230
4. แสดงจำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากรวม 1 เดือนมาเฉลี่ย
226,230/4=56,557.5 บาท
5. Write
แสดงจำนวนเงินที่เฉลี่ยจาก 1 เดือน และ จำนวนเงินที่นำไปฝาก แต่ละ สัปดาห์
1 เดือน =226,230
1 สัปดาห์ =56,557.5
จบการทำงาน
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 2
เมื่อให้จำนวนที่นำฝากสัปดาห์ที่ 1 คือ 32,300 บาท สัปดาห์ที่ 2 คือ 17,300 บาท สัปดาห์ที่ 3 คือ 28,900 บาท สัปดาห์ที่ 4 คือ 42,000 บาท
1. Begin
บอกการเริ่มต้นของขั้นตอนการทำงาน
2. Read Price
รับจำนวนเงินที่นำไปฝาก ในที่ที่กำหนดให้
สัปดาห์ 1 = 32,300
สัปดาห์ 2 = 17,300
สัปดาห์ 3 = 28,900
สัปดาห์ 4 = 42,000
3. Interrest
คำนวนจำนวนเงินที่ จะต้องนำไปฝากใน 1 เดือน มี 4 สัปดาห์
32,300+17,300+28,900+42,000=120,500
4. แสดงจำนวนเงินที่ต้องนำไปฝากรวม 1 เดือน มาเฉลี่ย
120,500/4 = 30,125 บาท
5. Write
แสดงจำนวนเงินที่เฉลี่ยจาก 1 เดือน และ จำนวนเงินที่นำไปฝาก แต่ละสัปดาห์
1 เดือน = 120,500 บาท
1 สัปดาห์ = 30,125 บาท
6. จบการำงาน
4. จงหาแนวทางการแก้ปัญหา 5 ขั้นตอน ของการคำนวนชั่วโมงในการทำงานของพนักงานฝึกหัดในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่เปิดทำการเวลา 6.00-24.00 น. เพื่อใช้ในการคำนวนอัตราค่าจ้างในการทำงาน โดยจ่ายในชั่วโมงละ 30 บาท โดยนับเวลาที่มาทำงานและเวลาที่เลิกทำงานในแต่ละวันเข้ามา จากนั้นคำนวนหาชั่วโมงทำงาน และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้พนักงานในแต่วันนั้น
Problem Statement
Input Output Description
Input คือ
Output คือ
Hand Example
Algorithm Development
Decomposition
Refinement
Pseudo Code
Testing
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 1
เมื่อให้เวลาเรื่มต้นทำงาน คือ 09.35 น. เวลาเลิกทำงาน คือ 13.30 น.
ทดสอบด้วยข้อมูลชุดที่ 2
เมื่อให้เเวลาเริ่มต้นทำงาน คือ 13.00 น. เวลาเลิกงาน คือ 20.15 น.
my
วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
หลักการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม
วิชาหลักการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม รหัส 3204 - 2007
จุดประสงค์รายวิชา
1. เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ วิเคราะห์ปัญหา และกำหนดขั้นตอนการแก้ปัญหา ด้วยคอมพิวเตอร์
2. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนของการออกแบบโปรแกรม
3. เพื่อให้มีความสามารถในการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม
4. เพื่อให้เห็นคุณค่าถึงความสำคัญของการออกแบบโปรแกรม
มาตรฐานรายวิชา
1. อธิบายขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนาโปรแกรม
2. ปฏิบัติการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษา และปฏิบัติ เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ แก้ไขปัญหาการทำงาน การวิเคราะห์ปัญหา การกำหนดขั้นตอนการทำงาน (Algorithm) การเขียนผังงาน การสร้างเซตกับผังงาน การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) หลักการออกแบบโปรแกรม และการพัฒนาโปรแกรม
จุดประสงค์รายวิชา
1. เพื่อให้มีความรู้ความสามารถ วิเคราะห์ปัญหา และกำหนดขั้นตอนการแก้ปัญหา ด้วยคอมพิวเตอร์
2. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนของการออกแบบโปรแกรม
3. เพื่อให้มีความสามารถในการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม
4. เพื่อให้เห็นคุณค่าถึงความสำคัญของการออกแบบโปรแกรม
มาตรฐานรายวิชา
1. อธิบายขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนาโปรแกรม
2. ปฏิบัติการออกแบบและพัฒนาโปรแกรม
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษา และปฏิบัติ เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ แก้ไขปัญหาการทำงาน การวิเคราะห์ปัญหา การกำหนดขั้นตอนการทำงาน (Algorithm) การเขียนผังงาน การสร้างเซตกับผังงาน การเขียนรหัสเทียม (Pseudo Code) หลักการออกแบบโปรแกรม และการพัฒนาโปรแกรม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)